การส่งพัสดุแบบ EMS
การส่งพัสดุแบบ EMS การส่งแบบนี้ รหัสจะขึ้นต้นด้วยตัว E เช่น EA / EG / EH / EJ ซึ่งก็ย่อมาจากคำว่า EMS นั่นเอง ซึ่งการจัดส่งแบบนี้จะปลอดภัยและได้ของเร็วที่สุด แต่ข้อเสียของมันก็คือ แพง ค่ะ โดยการส่งแบบ EMS นี้จะมีรหัสพัสดุ (TAG) ที่สามารถตรวจสอบสถานะพัสดุทางอินเทอร์เน็ตได้ โดยจะอัพเดทลำดับการส่งอย่างละเอียดว่าของถึงไหนแล้ว และยังจัดส่งของในวันอาทิตย์ด้วย (ขึ้นอยู่กับพื้นที่)
ระยะเวลาในการจัดส่ง
กรณีพัสดุสูญหายจะได้ค่าประกันพัสดุในวงเงิน 2,000 บาท
การส่งพัสดุแบบลงทะเบียน
การส่งแบบนี้ รหัสพัสดุจะขึ้นต้นด้วยตัว R นำหน้า เช่น RA /RB / RC / RD / RF/ RG/ เรียกว่า รวมสารพัด R โดยการส่งแบบลงทะเบียนจะเป็นแบบที่นิยมมากที่สุด เนื่องจากราคากำลังพอเหมาะ ไม่แพงจนเกินไป และยังมีรหัสพัสดุที่สามารถตรวจสอบสถานะพัสดุทางอินเทอร์เน็ตได้เช่นเดียวกับ EMS แต่จะแตกต่างตรงที่ข้อมูลจะโชว์แค่ว่ารับเข้าระบบแล้ว จากนั้นก็จะขึ้นอีกทีคือแจ้งให้ทราบว่าไปถึงปลายทางแล้ว
ระยะเวลาในการจัดส่ง
กรณีพัสดุสูญหายจะได้ค่าประกันพัสดุในวงเงิน 300 บาท
การส่งแบบพัสดุธรรมดา
การส่งแบบนี้ รหัสพัสดุจะขึ้นต้นด้วยตัว P นำหน้า เช่น PA / PB / PC / PD โดยการส่งของแบบนี้ จะลงทะเบียนในตัว แต่ ไม่สามารถตรวจสอบสถานะพัสดุทางอินเทอร์เน็ตได้ แต่สามารถตรวจสอบได้ที่ไปรษณีย์ปลายทาง/ต้นทาง เหมาะสำหรับการส่งของที่มีน้ำหนักค่อนข้างสูง
ระยะเวลาในการจัดส่ง
กรณีพัสดุสูญหายจะได้ค่าประกันพัสดุในวงเงิน 1,000 บาท
ค้นหาสิ่งของฝากส่งทางไปรษณีย์ หลังการฝากส่ง 24 ชั่วโมง << คลิ๊ก >>